วัตถุประสงค์ของการเป็นสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟู

      ผลิตแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูที่มีความรู้ความสามารถในการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสมรรถภาพ และให้การรักษาแบบองค์รวม ในกลุ่มโรคต่างๆได้อย่างเหมาะสม โดยสอดคล้องกับบริบทการทำงานในระบบของกระทรวงสาธารณสุข

พันธกิจของแผนงานฝึกอบรม

      พันธกิจของแผนงานฝึกอบรมฯ มุ่งผลิตแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูที่
1. มีความรู้ความสามารถในการบำบัดรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพแบบองค์รวมอย่างเหมาะสม คำนึงถึงสภาพร่างกาย พฤติกรรม จิตสังคม สิ่งแวดล้อม กฎหมาย และความเป็นธรรม มีความเอื้ออาทรและใส่ใจในความปลอดภัย
2. สามารถแก้ไขปัญหาและส่งเสริมสุขภาพของประชาชนและผู้สูงอายุเพื่อป้องกันความพิการ
3. มีความสามารถในการเป็นผู้นำทีมฟื้นฟูสมรรถภาพที่สามารถทำงานร่วมกับทีมสหวิชาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานแบบมืออาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรม มีจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ มีพฤติกรรมที่เหมาะสมต่อเพื่อนร่วมงาน ทั้งในวิชาชีพของตนเอง และวิชาชีพอื่น ๆ รวมทั้งผู้ป่วยและญาติ
4. มีความสามารถทำวิจัยและเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง
5. ทำงานเพื่อตอบสนองนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขและความต้องการด้านสุขภาพของชุมชน เพิ่มจำนวนแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูให้แก่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขส่วนภูมิภาค

ปรัชญาในการให้การฝึกอบรม

- Active Learning
- Training Centered
- Flexible
- Real Situation
- Professional
- Patient Safety

ผลสัมฤทธิ์ของแผนงานฝึกอบรม (Intended Educational outcomes)

แพทย์ที่จบการฝึกอบรมต้องมีคุณสมบัติและความรู้ความสามารถขั้นต่ำตามสมรรถนะหลักทั้ง 6 ด้านดังนี้
1. การบริบาลผู้ป่วย (patient care)
1.1 สามารถใช้ทักษะการซักประวัติ การตรวจร่างกาย การวินิจฉัยแยกโรค การแปลผลตรวจทางห้องปฏิบัติการและภาพถ่ายรังสี เพื่อให้การวินิจฉัยโรคและการรักษาผู้ป่วยได้ถูกต้อง เหมาะสม ตามมาตรฐานวิชาชีพแพทย์
1.2 สามารถประยุกต์ใช้วิทยาการด้านการแพทย์ สังคมวิทยา และจิตวิทยา เพื่อวางแผน การบำบัดรักษาได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัย อีกทั้งให้ผู้ป่วยมีสภาพร่างกาย จิตใจพร้อม ปราศจากภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพ
2. ความรู้และทักษะหัตถการเวชกรรม (medical knowledge and procedural skills)
2.1 มีความรู้และมีทักษะเฉพาะทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูที่ทันสมัย
2.2 มีความเชี่ยวชาญในการประยุกต์ใช้บัญชีการจำแนกความบกพร่อง ความพิการ และสุขภาวะ ขององค์การอนามัยโลก (International Classification of Functioning, Disability and Health; ICF) เพื่อจำแนกปัญหาและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง กำหนดเป้าหมาย วางแผนการฟื้นฟูสมรรถภาพ และแก้ไขปัญหาของผู้ป่วยและคนพิการได้อย่างเหมาะสม เป็นองค์รวม เป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และได้ประสิทธิผล
2.3 มีทักษะการเป็นผู้นำทีมเวชกรรมฟื้นฟู การทำงานแบบสหวิทยาการ (interdisciplinary approach) การให้คำแนะนำ การประเมินเพื่อติดตามผลลัพธ์ตามมาตรฐานวิชาชีพ
3. ทักษะระหว่างบุคคลและการสื่อสาร (interpersonal and communication skills)
3.1 สามารถรับฟัง สรุปปัญหา ให้ข้อมูล และคำปรึกษาแก่ผู้ป่วย คนพิการ และครอบครัว ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม แสดงถึงความเมตตา การเคารพการตัดสินใจและศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ อีกทั้งสามารถกระตุ้นให้ผู้ป่วยและคนพิการตระหนักในสมรรถนะของตนเอง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต
3.2 สามารถนำเสนอข้อมูลผู้ป่วย ถ่ายทอดความรู้ ทักษะ และให้คำปรึกษาแก่แพทย์ บุคลากร ในทีมเวชกรรมฟื้นฟู นักศึกษา และบุคลากรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสามารถอภิปรายปัญหาอย่างถูกต้องสมเหตุสมผล
3.3 สามารถบันทึกเวชระเบียนได้ตามมาตรฐานทางการแพทย์ และเขียนบทความวิชาการได้
3.4 สามารถใช้สื่อโซเชียลหรือสื่อสาธารณะได้อย่างเหมาะสม มีจริยธรรม และถูกกฎหมาย
4. การเรียนรู้และการพัฒนาจากฐานการปฏิบัติ (practice-based learning and improvement)
4.1 สามารถเพิ่มพูนความรู้ด้านการแพทย์และเวชศาสตร์ฟื้นฟูได้ด้วยตนเอง เพิ่ม ประสบการณ์จากการปฏิบัติทางคลินิก และวิเคราะห์ข้อบกพร่องและข้อควรพัฒนา ด้านความรู้ ทักษะและทัศนคติของตนเองได้
4.2 สามารถประยุกต์ใช้หลักฐานจากงานวิจัยเพื่อพัฒนากระบวนการบำบัดรักษา และฟื้นฟู สมรรถภาพผู้ป่วยและคนพิการได้
4.3 สามารถออกแบบและดำเนินงานวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อสร้างองค์ความรู้ หรือนวัตกรรมทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู เพื่อแก้ปัญหาผู้ป่วยคนพิการหรือเพื่อพัฒนา ระบบบริการเวชกรรมฟื้นฟู
5. ความสามารถในการทำงานตามหลักวิชาชีพนิยม (professionalism)
5.1 มีคุณธรรม จริยธรรม และทัศนคติอันดีต่อผู้ป่วย คนพิการ ครอบครัว ผู้ร่วมงาน เพื่อนร่วม วิชาชีพ และชุมชน
5.2 มีความสนใจใฝ่รู้เพื่อพัฒนาไปสู่ความเป็นผู้เรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต (continuous professional development) และเพื่อคงไว้ซึ่งมาตรฐานวิชาชีพ
5.3 มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม และความต้องการของชุมชนและประเทศชาติ
6. การทำเวชปฏิบัติให้สอดคล้องกับระบบสุขภาพ (system-based practice)
6.1 สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับระบบและยุทธศาสตร์สาธารณสุขของ ประเทศในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานเวชกรรมฟื้นฟู และประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมตามสถานการณ์
6.2. สามารถร่วมพัฒนาคุณภาพการบำบัดรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพ รวมทั้งสร้างเสริมสุขภาพ ของผู้ป่วยและคนพิการ
6.3. สามารถปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

ทำเนียบศิษย์เก่า เวชศาสตร์ฟื้นฟู